เป๊ป กวาร์ดิโอลา ชี้ "สโต๊ก ยุค โทนี่ พูลิส" จุดประกายแนวทางลูกตั้งเตะในพรีเมียร์ลีก
เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า ทีมสโต๊ก ซิตี้ ในยุคของ โทนี่ พูลิส คือแรงบันดาลใจที่ทำให้หลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับการเล่นลูกตั้งเตะและการโจมตีทางอากาศมากขึ้น พร้อมยืนยันว่าแม้จะรับรู้ถึงแนวโน้มดังกล่าว แต่เขาจะยังคงยึดมั่นในแนวทางการเล่นของตัวเอง
ก่อนเกมคาราบาวคัพ รอบ 4 ที่ “เรือใบสีฟ้า” จะบุกเยือน สวอนซี ซิตี้ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ ในคืนวันพุธนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) กวาร์ดิโอลาได้กล่าวถึงพัฒนาการของฟุตบอลอังกฤษที่หันมาเน้นการเล่นบอลยาวและลูกตั้งเตะมากขึ้น
“ผมจำได้ว่าเมื่อก่อน ฌอน ไดช์ กับทีมเบิร์นลีย์ เป็นทีมที่อันตรายมากจากบอลยาวและลูกที่สอง เขาเก่งมากในเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แซม อัลลาไดซ์ ก็เคยทำได้ดี หรือแม้แต่สโต๊ก ซิตี้ ในยุคของพูลิส”
“จำได้ไหมตอนที่พวกเขาใช้ลูกทุ่มไกลสร้างปัญหาให้คู่แข่ง? ตอนนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่ตอนนี้แทบทุกทีมในลีกทำกันหมดแล้ว”
นายใหญ่ของซิตี้เสริมว่า เขาไม่ได้มองข้ามการทำประตูจากลูกฟรีคิกหรือลูกเตะมุม แต่จะยังคงเน้นการเล่นตามแนวทางเดิมที่เน้นการครองบอล การสร้างสรรค์เกม และการจู่โจมอย่างมีระบบ
“แน่นอนว่าผมอยากให้ทีมยิงได้จากลูกตั้งเตะ แต่ผมยังเชื่อในวิธีการของเรา ผมใช้เวลาไปกับการพัฒนาเกมรุกและการสร้างโอกาส เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมทำมาตลอดอาชีพ”
นอกจากนี้ กวาร์ดิโอลา ยังเผยถึงแผนการโรเตชันในเกมกับสวอนซี โดยจะให้โอกาสนักเตะดาวรุ่ง ดิวไวน์ มูคาซา วัย 18 ปี ขึ้นมามีชื่อในทีมชุดใหญ่ ขณะที่ เจมส์ แทรฟฟอร์ด จะกลับมารับหน้าที่เฝ้าเสา ส่วน โรดรี ยังไม่พร้อมลงสนาม
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือการใช้คู่กองหน้า โอมาร์ มาร์มูช และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ซึ่งเป๊ปยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะจับทั้งคู่ลงเล่นพร้อมกันในอนาคต
“โอมาร์ กับ เออร์ลิง สามารถเล่นร่วมกันได้ เราอาจต้องการปีกธรรมชาติเพิ่ม แต่สิ่งสำคัญคือการให้ผู้เล่นอยู่ใกล้เออร์ลิงมากที่สุด เพื่อใช้ช่องว่างระหว่างฟูลแบ็กกับเซ็นเตอร์แบ็ก และโอมาร์คือคนที่ทำตรงนั้นได้ดีที่สุด”
เกมระหว่าง สวอนซี ซิตี้ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกคาราบาวคัพ รอบ 4 จะมีขึ้นในคืนวันพุธนี้ โดย “เรือใบสีฟ้า” มีเป้าหมายผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เพื่อลุ้นแชมป์รายการนี้อีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา.